Power nap เติมพลังระหว่างวัน ด้วยการงีบหลับบนเก้าอี้

การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์เราเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีช่วงการนอนหลับแบบยาวๆ ในช่วงกลางคืนตามนาฬิกาชีวิตเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ในช่วงกลางวันเองมนุษย์ก็มีการนอนกลางวันหรือการงีบหลับที่เรียกว่า Power nap ที่ช่วย เพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายและสมอง

การนอนกลางวันดียังไง?

- ลดความอ่อนล้าของร่างกายและสมอง
- ทำให้ร่างกายและสมองตื่นตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีขึ้น
- ทำให้อารมณ์ดี ส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์และการใช้ทักษะต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม
- ช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- ช่วยให้มีสมาธิ สามารถจดจำได้ดีขึ้น

ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ไม่ใช่ข้อกล่าวอ้างลอยๆ เพราะมีผลงานวิจัยรับรอง อาทิเช่น ผลงานวิจัยของ ดร.ฮาร์วี ไซมอน (Harvey Simon) ผู้ก่อตั้งวารสาร Harvard Men’s Health Watch ในเครือ Harvard Health Publishing ได้ทำการทดลองกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำนวน 200 คน พบว่า ผู้ที่ได้งีบหลับวันละ 40 นาที จะมีความตื่นตัวและมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น และอีกการศึกษาหนึ่ง ซึ่งศึกษากลุ่มคนที่ทำงานเป็นกะกับอาสาสมัคร พบว่า ผู้ที่ได้งีบหลับวันละ 20 นาที จะมีความตื่นตัว มีประสิทธิภาพในการทำงาน และมีอารมณ์ดีขึ้น 

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โลซาน สวิตเซอร์แลนด์ ที่ติดตามอาสาสมัคร อายุระหว่าง 35-75 ปี จำนวน 3,462 คน เป็นเวลา 5 ปี โดยงานวิจัยพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่งีบ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 5 นาที-1 ชั่วโมง มีโอกาสเกิดโรคหัวใจวาย หัวใจล้มเหลว น้อยกว่าคนที่ไม่นอนกลางวันเลยถึง 48% ในขณะที่งานวิจัยใน The Journal of Applied Physiology พบว่า การงีบหลังเป็นประจำ มีความสัมพันธ์กันกับการลดลงของอัตราการตายจากโรคหัวใจมากถึง 37%

อย่างไรก็ตาม การนอนกลางวันหรือการงีบหลับนั้นไม่ใช่เป็นการนอนเพื่อซ่อมแซมร่างกาย เพราะระหว่างการนอนกลางวันหรือการงีบหลับเป็นเวลาสั้นๆ ร่างกายของเราไม่ได้สร้างโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone: GH) เพื่อใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดังนั้น การนอนกลางวันหรือการงีบหลับจึงเป็นการนอนเพื่อชาร์จแบตให้กับสมองและร่างกายเท่านั้น

การนอนกลางวัน...นานเกินไปก็มีโทษ

การนอนกลางวันหรือการงีบหลับนานเกินไป อาจรบกวนธรรมชาติของร่างกาย ขัดขวางนาฬิกาชีวิต จนทำให้เกิดความแปรปรวน ส่งผลให้ร่างกายสับสน ตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น ในบางกรณีการงีบหลับผิดเวลาหรือนานเกินไป จะทำให้นอนไม่หลับในช่วงกลางคืน หรือหากรุนแรงขึ้นอาจกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ เราควรเลือกระยะเวลาที่ช่วงเวลาในการงีบหลับให้เหมาะสม 

นอกจากนี้หลายคนประสบปัญหาการงีบหลับด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่น การนอนบนเก้าอี้ การฟุบหน้าหลับบนโต๊ะทำงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้หน้าเป็นรอยจากการกดทับแล้ว ยังทำให้เกิดอาการปวดตึงที่แผ่นหลังเพราะท่านั่งที่ผิด แทนที่จะตื่นมาแล้วหายจากความเหนื่อยล้ากลับกลายเป็นตื่นมาแล้วปวดหลังกว่าเดิม หรือเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมขึ้น จึงให้หลายๆ องค์กรเลือกที่จะสร้างห้องพักผ่อนที่มีเตียงนอน หรือเก้าอี้พักผ่อน (Recliner) เพื่อให้พนักงานงีบหลับระหว่างพักได้สบายขึ้น

เคล็ดลับการงีบหลับอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การงีบหลับที่ดี ควรอยู่ในช่วงเวลา 13.00น. - 15.00น. เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายตื่นตัวน้อยที่สุด หากงีบหลับหลังเวลา 15.00น. อาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับในช่วงกลางคืนได้
  2. การงีบหลับที่ดี ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งการนอนหลังในแต่ละช่วงระยะเวลาให้ผลแตกต่างกันดังนี้

- งีบหลับประมาณ 10 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงาน คืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ให้กับสมองและร่างกาย เป็นช่วง Power nap ที่ดีที่สุด

- งีบหลับประมาณ 20-25 นาที เหมาะกับคนที่พักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ เพราะสามารถทดแทนการนอนได้ถึง 2 ชั่วโมง (แต่ไม่สามารถทดแทนการนอนหลับแบบยาวๆ ได้)

- งีบหลับประมาณ 30  นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกายเท่าไหร่นัก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ก้ำกึ่ง ทำให้หลังตื่นนอนเราจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที

- งีบหลับ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงเต็ม เป็นการงีบหลับที่ดีส่งผลดีต่อการจดจำ เพราะเราจะอยู่ในช่วงการหลับลึกระยะสั้น ช่วยกระตุ้นความจำ เหมาะกับคนที่ทำงานหนักหรือนักเรียนนักศึกษาที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบ

- งีบหลับ 90 นาที ร่างกายเข้าสู่สภาวะหลับลึก ซึ่งเป็นช่วงที่เรากำลังเริ่มฝัน ร่างกายของเราได้พักผ่อนเต็มที่ ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาจะอารมณ์ดี ร่างกายและระบบความคิดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  1. สร้างสภาวะแวดล้อมที่ผ่อนคลายเหมาะสมกับการนอนหลับ เช่นนอนในห้องที่มีแสงน้อย ค่อนข้างเงียบ หรือบางคนอาจสวมใส่ผ้าปิดตาเพื่อช่วยให้นอนหลับได้มากขึ้น
  2. ตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อจำกัดเวลาการนอนไม่ให้หลับลึกหรือนอนนานจนเกินไป และลดความกังวลที่จะนอนเกินเวลาที่ตั้งใจไว้
  3. ควรงีบหลับบนเก้าอี้พักผ่อน (Recliner)

การงีบหลับในที่ทำงานไม่ควรนอนเหยียดตัวลงกับพื้นเพราะดูไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ควรนอนในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่นการนอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน การนั่งบนพื้นพิงกำแพง หรือแม้แต่การนอนเอนหลังบนเก้าอี้ทำงาน เพราะท่าทางการนอนเหล่านั้นที่นอกจากจะผิดหลักสรีระแล้ว ยังส่งผลให้กระดูกสันหลังของเรารับภาระหนัก ทำให้หลังจากตื่นนอนแทนที่ร่างกายจะสดชื่นกลับมีอาการปวดหรือเมื่อยล้าจากหมอนรองกระดูกถูกกดทับจากการนั่งก้มหน้าฟุบกับโต๊ะหรือการเอียงคอในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง กล้ามเนื้อหดเกร็งจนเกิดภาวะออฟฟิศซินโดรมตามมา

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ที่ต้องการนอนงีบระหว่างวันควรนอนบนเก้าอี้พักผ่อน (Recliner) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระการนั่งและการเอนหลังนอนอย่างเก้าอี้พักผ่อน (Recliner) ของ Perfect Chair  

เก้าอี้พักผ่อน (Recliner) ของ Perfect Chair ถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากตำแหน่งท่านั่งของนักบินอวกาศของ NASA ขึ้นสู่วงโคจร ร่างกายของพวกเขาอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ในช่วงนั้นเองระดับขาของพวกนักบินอวกาศจะถูกปรับให้อยู่สูงกว่าหัวใจ เป็นท่านั่งที่ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและรู้สึกสบายที่สุด อีกทั้งตำแหน่งนี้จะลดน้ำหนักของร่างกายที่กำลังกดทับกระดูกสันหลังลง และช่วยปรับระดับการหายใจให้ได้ลึกขึ้น เป็นผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและปริมาณออกซิเจนในเลือดจึงเพิ่มขึ้น ทำให้เวลาที่เราเอนหลังนอน ร่างกายของเราจะถูกจัดระเบียบให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมทั้งในด้านของสรีระ และความเหมาะสมในที่ทำงาน รวมถึงดีไซน์แบบ Universal Design (ยูนิเวอร์แซลดีไซน์) ทำให้ Perfect Chair  เป็น เก้าอี้พักผ่อน (Recliner) ที่ดูทันสมัยเข้าได้กับทุกสไตล์การตกแต่งของสำนักงาน หรือภายในบ้าน เหมาะแก่การใช้เป็นเก้าอี้พักผ่อนเพื่องีบหลับ ทำให้หลังการตื่นนอกจากสมองจะได้รับการชาร์จแบตให้สดชื่นแล้ว ร่างกายของเรายังได้รับการผ่อนคลายจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และอาการปวดหลัง พร้อมที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่

การนอนกลางวันหรือการงีบหลับในแต่ละช่วงระยะเวลาส่งผลดีต่อร่างกายและสมองมาก แต่การงีบหลับก็ควรนอนบนที่นอนหรือเก้าอี้พักผ่อน (Recliner) ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้การงีบกลางวันของเรามีประสิทธิภาพเป็น Power nap ที่จะชาร์ตแบตให้สมอง เติมพลังให้ร่างกายของเราพร้อมลุยงานได้ตลอดทั้งวันนะคะ

สัมผัสประสบการณ์พิเศษกับ Perfect Chair ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้
ที่ Hoog Showroom สุขุมวิท 23
แผนที่: https://bit.ly/HoogAddress
Line: @hoog https://bit.ly/HoogLine
หรือโทร 087-528-2027
#PerfectChair
#SenseOfRelaxing
#Zerogravity